ระหว่างที่ผู้สนใจเริ่มศึกษาธรรมกำลังพยายามจดจำ “จิต เจตสิก รูป” อยู่นั้น มีอยู่เรื่องหนึ่งที่อยากเล่าให้ฟังก่อนเพื่อจะได้เห็นภาพเบื้องต้นว่าที่เรากำลังจะเดินทางกันจากภาษาโลก(ภาษาสื่อสาร) ไปสู่พระพุทธวจนะ(ภาษาธรรม) นั้นจะเป็นอย่างไร
คนเราไม่ว่าชาติไหนก็มีภาษาสื่อสารของชาติตนเองเช่น คนไทย ใช้ภาษาไทย คนลาวใช้ภาษาลาว คนอังกฤษใช้ภาษาอังกฤษ คนฝรั่งเศษใช้ภาษาฝรั่งเศษ คนอเมริกันใช้ภาษาอังกฤษ คนจีนใช้ภาษาจีน คนรัสเซียใช้ภาษารัสเซีย คนอินเดียใช้ภาษาฮินดี คนพม่าใช้ภาษาพม่า คนสิงคโปร์ใช้ภาษาอังกฤษ กับภาษาจีน ฯลฯ ที่เหลือนึกเอาเองต่อนะ มีอีกตั้งหลายชาติ หลายภาษา เคยสงสัยไหมว่าแล้วจะใช้ภาษาไหนเป็นหลักในการศึกษาธรรมละ? แต่ละชาติก็อาจบอกว่าใช้ภาษาของชาติตัวเองซิ อย่างคนไทยก็พยายามแปลข้อธรรมทุกอย่างให้เป็นภาษาไทย คนจีนก็พยายามแปลข้อธรรมให้เป็นภาษาจีน ฯลฯ แล้วตกลงแต่ละชาติก็จะแปลข้อธรรมต่างๆเป็นภาษาตัวเองหมดเลยหรือ? อะไรจะเกิดขึ้นเมื่อชาวพุทธชาติต่างๆมาเจอกัน จะคุยกันรู้เรื่องไหมนี่ เข่น โทสะ
ภาษาไทย แปลว่า โกรธ
ภาษาอังกฤษ แปลว่า Angry
ภาษาจีน แปลว่า 愤怒
ภาษาญี่ปุ่น แปลว่า 怒って
ภาษาฝรั่งเศษ แปลว่า colère
ภาษารัสเซีย แปลว่า сердитый
ภาษาฮินดี แปลว่า नाराज
ฯลฯ
แล้วแต่ละคนใช้ภาษาของชาติตัวเองเมื่อมาเจอกันจะรู้ไหมว่าพูดเรื่องเดียวกันอยู่ ซึ่งพระพุทธองค์ได้ตรัสสำหรับกรณีภาษาที่ใช้ในการศึกษาธรรมใว้ว่าดังนี้ (ต่อไปนี้เป็นคำแปลที่ยังไม่สุขุมคัมภีระตามคำสั่งสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า)
พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๙/ ๙๑ มหามกุฏราชวิทยาลัย จุลวรรค ทุติยภาค และอรรถกถา
[๑๘๐] สมัยนั้น ภิกษุสองรูปเป็นพี่น้องกัน ชื่อเมฏฐะและโกกุฏฐะ เป็นชาติพราหมณ์ พูดจาอ่อนหวาน เสียงไพเราะ เธอสองรูปนั้นเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ถวายบังคมนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง แล้วกราบทูลว่า พระพุทธเจ้าข้า บัดนี้ ภิกษุทั้งหลายต่างชื่อ ต่างโคตร ต่างชาติ ต่างสกุลกันเข้ามาบวช พวกเธอจะทำพระพุทธวจนะให้ผิดเพี้ยนจากภาษาเดิม มิฉะนั้นข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายจะขอยกพระพุทธวจนะขึ้นโดยภาษาสันสกฤต.
พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า ดูก่อนโมฆบุรุษทั้งหลาย ไฉนพวกเธอจึงได้กล่าวอย่างนี้ว่า มิฉะนั้นข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายจะยกพระพุทธวจนะขึ้นโดยภาษาสันสกฤตดังนี้เล่า ดูก่อนโมฆบุรุษทั้งหลาย การกระทำของพวกเธอนั่น ไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส... ครั้นแล้ว ทรงทำธรรมีกถารับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงยกพุทธวจนะขึ้นโดยภาษาสันสกฤต รูปใดยกขึ้น ต้องอาบัติทุกกฏ.
ตถาคตอนุญาตให้เล่าเรียนพุทธวจนะตามภาษาเดิม.
ขั้นตอนเบื้องต้นของการเดินทางจากภาษาโลกเข้าสู่ภาษาธรรม
ขั้นที่ ๑. แปลจากภาษาสื่อสารของแต่ละชาติกลับเข้าสู่ภาษามคธ เช่น
ภาษาไทย โกรธ แปลเป็นภาษามคธว่า โทสะ(มคธอักษรไทย) ออกเสียงว่า โท-สะ
ภาษาอังกฤษ Angry แปลเป็นภาษามคธว่า Dosa (มคธอักษรอังกฤษ) ออกเสียงว่า โท-สะ
ภาษาจีน 愤怒 แปลเป็นภาษามคธว่า (มคธอักษรจีน) ออกเสียงว่า โท-สะ
ภาษาญี่ปุ่น 怒ってแปลเป็นภาษามคธว่า (มคธอักษรญี่ปุ่น) ออกเสียงว่า โท-สะ
ภาษาฝรั่งเศษ colère แปลเป็นภาษามคธว่า (มคธอักษรฝรั่งเศษ) ออกเสียงว่า โท-สะ
ภาษารัสเซีย сердитый แปลเป็นภาษามคธว่า (มคธอักษรรัสเซีย) ออกเสียงว่า โท-สะ
ภาษาฮินดี नाराज แปลเป็นภาษามคธว่า (มคธอักษรฮินดี) ออกเสียงว่า โท-สะ
ฯลฯ
ขั้นที่ ๒. จากภาษามคธเดินทางเข้าสู่พระพุทธพจน์
ภาษามคธที่ออกเสียงว่า “โท-สะ” (“โทสะ” มคธอักษรไทย) เบื้องต้นภาษาธรรมหมายถึง โทสะมูลจิต ๒ ประกอบด้วย
๑. โทมะนัสสะสะหะคะตัง ปฏิฆะสัมปะยุตตัง อะสังขาริกัง กามาวะจะระ อะกุสะละ โทสะมูละจิตตัง
๒. โทมะนัสสะสะหะคะตัง ปฏิฆะสัมปะยุตตัง สะสังขาริกัง กามาวะจะระ อะกุสะละ โทสะมูละจิตตัง
ดังนั้นเมื่อชาวพุทธทั้งโลกมาพบกันทุกท่านจะออกเสียง “โท-สะ” ซึ่งภาษาธรรมเบื้องต้นหมายถึง โทสะมูลจิต ๒ เหมือนกัน