พระยาปรนิมมิตวสวัตตีมาราธิราช ทูลอาราธนา พระผู้มีพระภาคเจ้าให้เสด็จพระปรินิพพาน ครั้งเสวยวิมุตติสุข ณ ต้นอชปาลนิโครธ ในสัปดาห์ที่ ๕ หลังตรัสรู้ว่า “ข้าแต่พระองค์ ผู้เจริญ ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าจงปรินิพพาน ขอพระสุคตจงปรินิพพานในบัดนี้เถิด บัดนี้เป็นเวลาปรินิพพานของพระผู้มีพระภาคเจ้า
พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสว่า “ดูก่อนมารผู้มีบาป บริษัททั้ง ๔ (ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา) ผู้เป็นสาวกของตถาคต จักยังไม่ฉลาด ไม่ได้รับแนะนำ ยังไม่แกล้วกล้า ไม่เป็นพหูสูต ไม่ทรงธรรม ไม่ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ไม่ปฏิบัติชอบ ไม่ประพฤติตามธรรม เรียนกับอาจารย์ของตน จักบอก จักแสดงธรรม มีปาติหาริย์ (คำสอนที่เห็นผลได้จริง) ข่มขี่ปรับปวาท (คำโต้แย้งของลัทธิอื่น) ที่เกิดขึ้นให้เรียบร้อยโดยสหธรรม (ความเห็นตรงกัน) ไม่ได้ เพียงใด ดูก่อนมารผู้มีบาป ตถาคตจักยัง ไม่ปรินิพพานเพียงนั้น”
พระพุทธองค์ทรงประกาศให้ทราบว่า ในพระพุทธศาสนาต้องประกอบไปด้วยพุทธบริษัททั้ง ๔ คือ ภิกขุบริษัท ภิกขุณีบริษัท อุบาสกบริษัท และอุบาสิกาบริษัท จะขาดอย่างหนึ่งอย่างใดมิได้
หน้าที่พุทธบริษัท ๔ พึงกระทำคือ
๑. พุทธบริษัท ๔ ต้องเป็นผู้รู้ เข้าใจ และสามารถปฏิบัติธรรมได้ถูกต้อง ตามพระพุทธธรรมคำสอน ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ (พระพุทธพจน์, พระไตรปิฎก)
๒. พุทธบริษัท ๔ ต้องสามารถ แนะนำ สั่งสอนผู้อื่นให้ปฏิบัติตามได้อย่างถูกต้อง ตามพระธรรมวินัย
๓. เมื่อมีผู้กล่าว ติเตียน จ้วงจาบ แสดงคำสอน ผิด พลาด พุทธบริษัท ๔ ต้องสามารถ ชี้แจง แก้ไข ให้ถูกต้องตามหลักธรรมของพระพุทธศาสนา